โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯเตรียมประกาศให้ ประชาชนทุกคนที่เป็น ผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนโควิด ได้ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ฉีดวัคซีนโควิด – เมื่อวันที่ 12 สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมออกคำสั่งให้ผู้ใหญ่ทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ โดยทางการสหรัฐฯเตรียมจะเพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีน และอนุญาตให้สัตวแพทย์ และ หมอฟัน สามารถทำหน้าที่ในการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนได้
ซึ่งนาย ไบเดน กล่าวว่านโยบายดังกล่าวจะเริ่มใช้จริง ไม่เกินวันที่ 1 พฤษภาคม
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าผู้นำสหรัฐฯจะอนุญาตให้ประชาชนสามารถออกมารวมตัวชุมนุมเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ หรือวันที่ 4 กรกฎาคมได้ โดยมีข้อแม้ว่าประชาชนต้องยังคงเว้นระยะห่างทางสังคม และเข้าฉีดวัคซีนโควิดแล้ว นอกจากนี้สถานที่ที่ใช้การรวมตัวเป็นสถานที่โล่งแจ้งอีกด้วย
โดยคาดว่าแถลงการครั้งนี้จะเกิดขึ้น ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ นาย ไบเดน จะลงนามเซ็นอนุมัติเงินเยียวยาโควิดมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นร่างงบประมาณที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ขณะนี้ประเทศสหรัฐฯอนุญาตให้ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่แพทย์แถวหน้า สามารถเข้าฉีดวัคซีนโควิดได้เท่านั้น โดยอ้างอิงจากรายงานของบลูมเบิร์กระบุว่าประเทศสหรัฐฯฉีดวัคซีนกับประชาชนแล้วกว่า 100 ล้านโดส
ประเทศสหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 30 ล้าน และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 540,000 ราย ถือเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมและยอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก
ซึ่งความเสียใจในระหว่างการทำงานเพียงอย่างเดียวของ Lou นั้น ก็คือการที่ Sony ได้ทำการผลิตเครื่องเล่น Walkman เป็นเจ้าแรก โดยเขาได้พูดถึงความเสียดายในการพัฒนาสิ่งนี้ว่า “มันยังคงเจ็บเสมอที่เราไม่สามารถผลิตมันออกมาได้”
เมื่อพูดถึงความสำเร็จของเขาแล้วนั้น Ottens ได้กล่าวว่า “พวกเรานั้นเป็นเพียงแค่เด็กเล็ก ๆ ที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเราไม่ได้รู้สึกว่า เรากำลังทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นเพียงแค่กีฬาประเภทหนึ่งเท่านั้น”
ตามที่กล่าวไป Lou Ottens ได้เสียชีวิตลงที่บ้านพักของเขาที่หมู่บ้าน Duizel ณ จังหวัดนอร์ทบราแบนต์ (Noord-Brabant) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในเวลานี้
สหรัฐฯ คว่ำบาตร ลูกมินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐประหารเมียนมา
สหรัฐฯ เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการ คว่ำบาตร ลูกมินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐประหารเมียนมา ยืนยันพร้อมเดินหน้าต่อ หากเมียนมายังคงใช้ความรุนแรง
รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า ทางการสหรัฐฯได้สั่งใช้มาตรการคว่ำบาตร นาย อ่อง แพ โซน และ น.ส. ขิ่น ธิรี เธต โมน พร้อมหกบริษัท ของลูก พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เพื่อการตอบโต้หลังกองทัพใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
โดยทางการสหรัฐฯยังได้ประกาศกร้าวอีกว่า ทางการจะไม่ลังเลที่จะเพิ่มระดับมาตรการคว่ำบาตรกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง และ ขัดขว้างเจตจำนงของประชาชน
อย่างไรก็ตามกองทัพเมียนมายังคงเมินเฉยต่อมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ และยังคงเดินหน้าสลายการชุมนุมเหมือนที่ทำในอดีต
สถานการณ์ชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมา ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ยึดอำนาจ พร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้
จากการก่อรัฐประหารครั้งนี้นำไปสู่เหตุชุมนุมต่อเนื่องหลายวัน จนนำไปสู่เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 54 ศพ และมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมกว่า 1,700 คน
ในส่วนของรูปลักษณ์นั้น เธอก็ได้กล่าวว่า มันออกมาดูดีเกินคาด โดยมันมีลักษณะเป็นเหมือนกับพิซซ่าหน้าชีส ที่มีแจมมะม่วงทาไปทั่วหน้า (แทนซอสมะเขือเทศของหน้าปกติ) และมีชิ้นส่วนของทุเรียนกระจายไปเหมือนกับชิ้นเนื้อสัตว์ อีกทั้งผงมะพร้าว (coconut powder) ที่โรยไปทั่วหน้าด้วย
นอกจากนี้แล้วนั้น ก็ยังได้มีการรายงานถึงปัญหาต่าง ๆ จากตัวอูเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยข้อมูลของอดีตผู้บริหารที่ว่าบริษัทมีกลไกการทำลาย/ปิดกั้นข้อมูล, การไม่ตรวจสอบประวัติของพนักงานขับ และอื่น ๆ ที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อทั้งภาพลักษณ์ และรูปคดีเสียเท่าไหร่
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น